
อียิปต์โบราณเป็นดินแดนแห่งปริศนาและความมหัสจรรย์ ที่นี่เคยให้กำเนิดอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ รามา, เทพเจ้าและฟาโรห์ และสิ่งก่อสร้างที่ตระการตาอย่างพิรามิดกิซ่า แต่ในหน้าประวัติศาสตร์ยุคใหม่ อียิปต์ก็ได้เผชิญกับช่วงเวลาที่มืดมน การปกครองของราชวงศ์ไม่เป็นธรรม การยึดครองดินแดน และความยากจนที่กัดกินประชาชน
ในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 อียิปต์ได้จุดประกายการปฏิวัติครั้งสำคัญ การปฏิวัตินี้ที่นำโดยกลุ่มทหารอิสระ ที่มี “รัศอิด” เป็นผู้นำ
รัศอิด หรือชื่อเต็มคือ มุฮัมมัด จัฟฟาร์ อับดุล-นาเซอร์ เป็นนายทหารหนุ่มที่มีวิสัยทัศน์และความกล้าหาญอย่างไม่ธรรมดา เขามีความโกรธเคืองต่อการปกครองของกษัตริย์ฟา roule d และความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมอียิปต์ รัศอิดเชื่อว่าอียิปต์จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
กลุ่มทหารของรัศอิดได้โจมตีและยึดครองสถานที่สำคัญต่างๆ ในไคโรรวมถึงพระราชวัง และกระทรวงต่างๆ การปฏิวัติครั้งนี้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ กษัตริย์ฟารุกถูกบังคับให้สละราชสมบัติ และอียิปต์ได้กลายเป็นสาธารณรัฐ
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใต้รัศอิด
การปฏิวัติ 1952 นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในอียิปต์ รัศอิดและสหายของเขาได้ดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อให้ประเทศพ้นจากความย่ำแย่ และก้าวเข้าสู่ยุคทองใหม่
-
การเส nasionalize ช่องทางการค้า: รัศอิดได้ควบคุมทรัพยากรที่สำคัญของชาติ เช่น คลองสุเอซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดในโลก การกระทำนี้ทำให้รัฐบาลอียิปต์มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และช่วยลดอิทธิพลของชาติตะวันตก
-
การปฏิรูปที่ดิน: รัศอิดได้นำนโยบายการปฏิรูปที่ดินมาใช้ โดยยึดที่ดินจากเจ้าของที่ดินรายใหญ่ และแจกจ่ายให้กับเกษตรกรไร้ที่ดิน การกระทำนี้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และทำให้เกษตรกรมีโอกาส
-
การพัฒนาอุตสาหกรรม: รัศอิดได้สนับสนุนการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมในอียิปต์ โดยสร้างโรงงานและโรงแรมขนาดใหญ่ การกระทำนี้ช่วยให้ประเทศมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และลดความ依赖ต่างประเทศ
-
นโยบายต่อโลกอาหรับ: รัศอิดเป็นผู้นำที่สำคัญในการฟื้นฟูขบวนการชาตินิยมในโลกอาหรับ เขาสนับสนุนการรวมตัวของชาติอาหรับและการต่อสู้กับอิสราเอล
รัศอิด: “ฮีโร” หรือ “เผด็จการ”?
รัศอิดเป็นผู้นำที่ขัดแย้งกันในประวัติศาสตร์อียิปต์ ในขณะที่เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ปลดปล่อยประเทศจากการปกครองของจักรวรรดิ และนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง แต่เขาก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเผด็จการที่ใช้อำนาจอย่างกดขี่
ข้อดีของรัศอิด:
- ความเป็นผู้นำที่ชาญฉลาด: รัศอิดเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์และมีความสามารถในการวางแผนระยะยาว
- ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศ: รัศอิดต้องการให้ประเทศของเขาเจริญก้าวหน้าและเป็นอิสระจากการรุกราน
- การสนับสนุนชาตินิยม: รัศอิดเป็นแรงบันดาลใจให้คนในโลกอาหรับต่อต้านการปกครองของชาติตะวันตก
ข้อเสียของรัศอิด:
- การละเมิดสิทธิมนุษยชน: รัศอิดได้ đàn ápฝ่ายค้านและจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
- การใช้มาตรการเผด็จการ: รัศอิดได้ควบคุมสื่อมวลชนและกองกำลังตำรวจเพื่อรักษาอำนาจ
รัศอิด: สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้
การปฏิวัติ 1952 และรัศอิดเป็นตัวอย่างของความซับซ้อนในประวัติศาสตร์ แม้ว่ารัศอิดจะมีความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ แต่เขาก็ใช้วิธีการที่ผิดพลาด ในการเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ เราต้องวิเคราะห์ทั้งสองด้านของเหรียญ เพื่อเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ดีและไม่ดี
ตารางสรุปเหตุการณ์สำคัญในสมัยรัศอิด
ปี | เหตุการณ์ |
---|---|
1952 | การปฏิวัติ 1952, รัศอิดขึ้นเป็นประธานาธิบดี |
1956 | สงครามสุเอส, อียิปต์ยึดคลองสุเอซจากอังกฤษและฝรั่งเศส |
1967 | สงครามหกวัน, อิสราเอลพิชิตไซไน, กอลันไฮทส์ และคาบสมุทรซิไน |
การศึกษาประวัติศาสตร์ของเราเองเป็นสิ่งที่สำคัญ ในขณะที่รัศอิดอาจเป็นตัวอย่างที่โต้แย้ง แต่ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในประวัติศาสตร์อียิปต์