
การศึกษาทุกแง่มุมของประวัติศาสตร์โลกนั้นเปรียบเสมือนการไขปริศนาอันยิ่งใหญ่ ที่เต็มไปด้วยบุคคลสำคัญและเหตุการณ์อันเป็นตัวกำหนดทิศทางของอารยธรรมมนุษย์ วันนี้ เราจะย้อนเวลากลับไปยังยุโรปในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 เพื่อทำความรู้จักกับ เจมส์ที่ 2 (James II) และการปฏิวัติรุ่งอรุณ (Glorious Revolution) ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจทางการเมืองของอังกฤษ
เจมส์ที่ 2 ครองราชย์ในปี ค.ศ. 1685 และดำรงตำแหน่งราชาธิปไตยเพียงไม่นานก็เกิดวิกฤติการณ์ขึ้น ในขณะนั้น อังกฤษมีทั้งผู้สนับสนุนระบอบกษัตริย์ และผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยมากขึ้น เจมส์ที่ 2 ได้ดำเนินนโยบายที่ถือว่าเป็นการละเมิดศาสนาโปรเตสแตนต์ ซึ่งเป็นศาสนาหลักของอังกฤษในขณะนั้น เขาพยายามที่จะสถาปนาศาสนาโรมันคาทอลิก และเพิ่มอิทธิพลของพระมารดาซึ่งเป็นคาทอลิก devout
ความไม่พอใจต่อ เจมส์ที่ 2 ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่การโค่นล้มเขาในปี ค.ศ. 1688 การปฏิวัติรุ่งอรุณ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากการรวมตัวกันของขุนนางและประชาชนที่ต่อต้าน เจมส์ที่ 2 และนโยบายของเขา วิลเลียมแห่งออเรนจ์ (William of Orange) กษัตริย์แห่งเนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็น Protestant และหลานเขยของ เจมส์ที่ 2 ได้รับการสนับสนุนให้ยกทัพไปอังกฤษ
การรุกรานของ วิลเลียม ทำได้อย่างราบรื่น และ เจมส์ที่ 2 ตัดสินใจหนีออกจากประเทศ เหตุการณ์นี้เป็นการปฏิวัติครั้งแรกในประวัติศาสตร์อังกฤษและยุโรปโดยทั่วไป ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการหกเลือด
หลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ Stuart การเมืองของอังกฤษได้เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง วิลเลียม และ มารี (Mary) ซึ่งเป็นธิดาของ เจมส์ที่ 2 ได้ขึ้นครองบัลลังก์ร่วมกัน
การปฏิวัติรุ่งอรุณ นำไปสู่การตราพระราชบัญญัติสิทธิและเสรีภาพ (Bill of Rights) ซึ่งกำหนดให้
-
รัฐสภาต้องได้รับความยินยอมจากกษัตริย์ก่อนที่จะออกกฎหมายใหม่
-
กษัตริย์จะถูกจำกัดอำนาจในการ levy ภาษีและยกทัพ
-
ประชาชนมีสิทธิในการปราศรัยอย่างสันติ และได้รับการคุ้มครองจากการลงโทษที่โหดร้าย
-
ศาสนาโปรเตสแตนต์จะได้รับการยอมรับเป็นศาสนาประจำชาติ
ข้อควรพิจารณา | |
---|---|
การปฏิวัติรุ่งอรุณ เป็นการเริ่มต้นของระบอบสมมติ (Constitutional Monarchy) ในอังกฤษ |
| การปฏิวัติรุ่งอรุณ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความจำเป็นในการแบ่งแยกอำนาจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบการเมือง |
การปฏิวัติรุ่งอรุณ เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์อังกฤษและโลกตะวันตก มันเป็นการยืนยันถึงแนวคิดว่าอำนาจของกษัตริย์ไม่ใช่ไม่มีขีดจำกัด และว่าประชาชนมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการปกครองตนเอง นอกจากนี้ การปฏิวัติรุ่งอรุณ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศอื่นๆทั่วโลก ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเสรีภาพ
แม้ว่า เจมส์ที่ 2 จะถูกโค่นล้มลงจากบัลลังก์ แต่ประวัติศาสตร์ของเขาไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น หลังจากหนีไปจากอังกฤษ เจมส์ที่ 2 พยายามที่จะกลับมาช่วงชิงบัลลังก์อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1689 เขาได้ยกทัพขึ้นบกที่ไอร์แลนด์และพยายามรวบรวมกองกำลังเพื่อทำสงครามกับ วิลเลียม และ มารี แต่ก็ถูกปราบปรามอย่างเด็ดขาด ในที่สุด เจมส์ที่ 2 ก็สิ้นชีวิตลงในฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1701
การปฏิวัติรุ่งอรุณ เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประวัติศาสตร์โลก ว่าความยุติธรรม และเสรีภาพเป็นสิ่งที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มา มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราหวนนึกถึงคำกล่าวของ Abraham Lincoln “Government of the people, by the people, for the people, shall not perish from this earth.” (รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน จะไม่สูญสลายจากโลกนี้)